เทคนิคการเขียน เรซูเม่ พิชิตใจ HR

“เรซูเม่” คือเอกสารสำคัญอันดับหนึ่งที่ใช้สำหรับการสมัครงาน เป็นสิ่งที่ HR หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กรจะใช้พิจารณาว่าคุณมีความเหมาะสมกับตำแหน่งที่เขากำลังตามหาอยู่หรือไม่ “เรซูเม่ที่ดี” ที่ถูกเขียนขึ้นอย่างเรียบร้อยย่อมดึงดูดความสนใจจาก HR ได้ และจะนำไปสู่การเรียกสัมภาษณ์เพื่อพูดคุยกันต่อไป แต่เรซูเม่ที่ผ่านตา HR แล้วแลดูไม่น่าสนใจ แฝงไปด้วย “ความบกพร่อง” มีความไม่เรียบร้อย หรือไม่สามารถแสดงออกมาได้เพียงพอว่า “คุณคือคนที่ใช่” แล้วไซร้ ย่อมอาจทำให้เจ้าของเรซูเม่ที่ไม่สมบูรณ์แบบใบนั้นหมดสิทธิเข้ารอบต่อไปอย่างน่าเสียดายแม้จะเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติแล้วก็ตาม  เพื่อป้องกันการเสียโอกาสที่อาจเกิดขึ้นจากการส่งเรซูเม่ไม่ต้องใจ HR วันนี้เรามีเคล็ดลับสิ่งที่ “ควรทำ” และ “ไม่ควรทำ” ในการเขียนเรซูเม่โดนใจมาฝากทุกท่านกัน  สิ่งที่ “ควรทำ” ในการเขียนเรซูเม่  สั้นได้ใจความทราบหรือไม่ว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือ HR ส่วนใหญ่นั้นจะใช้เวลาพิจารณาเรซูเม่ของผู้สมัครแค่คนละ 30 วินาทีโดยเฉลี่ยเท่านั้น ดังนั้นเรซูเม่ที่ดีจึงต้องสั้น กระชับ ครบถ้วนด้วยข้อมูลและได้ใจความคุณไม่ควรระบุข้อมูลที่ไม่ได้เป็นที่ต้องการของ HR หรือไม่ได้มีประโยชน์ต่อตำแหน่งงานที่คุณสมัคร จำกัดเนื้อหาให้อยู่ในกระดาษ 1 แผ่นโดยทั่วไปแล้วนั้น เรซูเม่ที่ดีควรมีเนื้อหาครบถ้วนในกระดาษ 1 แผ่นเท่านั้น หรือหากจำเป็นต้องมีมากกว่านั้นก็ไม่ควรมีเนื้อหาเกินหน้ากระดาษ 2 แผ่นอย่างเด็ดขาด ขนาดของตัวอักษรที่เลือกใช้ควรเลือกฟ้อนต์อ่านง่าย มีขนาดใหญ่ ไม่เล็กจนเกินไป และควรวางรูปแบบการเสนอหรือฟอร์แมทให้สวยงามอ่านง่าย ภาษาที่ใช้สำหรับเขียนเรซูเม่เนื่องจากนายจ้างยุคใหม่ แม้ว่าจะเป็นนายจ้างชาวไทยก็ล้วนต้องการจ้างผู้ที่มีความสามารถในภาษาอังกฤษ […]

10 คุณสมบัติ ที่นักการตลาดดิจิทัลต้องมี

ประเทศไทยมีประชากรกว่า 38 ล้านคน หรือคิดเป็นกว่าครึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมดที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต จากยอดการใช้งานดังกล่าวทำให้ภาคธุรกิจหันมาให้ความสนใจกับการทำการตลาดผ่าน “ช่องทางดิจิทัล” เช่น เว็บไซต์ ไลน์ เฟสบุค หรือยูทูปกันมากขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยในช่วงต้นปี 2564 เม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลมีมูลค่าสูงถึงกว่า 11,400 ล้านบาทและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  “นักการตลาดดิจิทัล” จึงติดโผลเป็นหนึ่งในอาชีพยอดนิยมที่เด็กรุ่นใหม่อยากทำ ทั้งยังเป็นอาชีพที่ทำรายได้ได้ดีและเป็นที่ต้องการตัวแซงหน้าอาชีพนักการตลาดแบบเดิม ๆ  นอกจากนี้การทำงานในแวดวงการตลาดดิจิทัลยังได้ชื่อว่าสนุก ท้าทาย เหมาะกับอุปนิสัยและลักษณะของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง  เอาล่ะ หากคุณคือคนรุ่นใหม่ไฟแรงคนหนึ่งที่กำลังสนใจสมัครงานด้านการตลาดดิจิทัลอยู่แล้วล่ะก็ เรามาลองดูกันดีกว่าไหมว่า “10 คุณสมบัติ” ที่นักการตลาดดิจิทัลที่ดีต้องมีติดตัวนั้นมีอะไรกันบ้าง 1-มีความสามารถด้านการสื่อสารไม่ใช่แค่พูด เขียน อ่านได้รู้เรื่อง แต่นักการตลาดดิจิทัลยุคใหม่ควรมีทักษะด้านภาษาและการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม นักการตลาดดิจิทัลที่ดีต้องเก่งทั้งเรื่องการพูด การฟังและการตีความ เพราะนอกจากจะต้องคอยรับฟัง จับใจความลูกค้าเพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่ต้องการได้แล้วนั้น นักการตลาดยังมีหน้าที่สื่อสารความต้องการของลูกค้าไปยังบุคคลอื่นๆ ในทีมงานให้ถูกต้องอีกด้วย เช่น การบรีฟพูดคุยกับนักเขียนเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ตอบโจทย์การบอกภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการของลูกค้าแก่นักออกแบบกราฟฟิกเพื่อให้ได้ผลงานที่ถูกต้องตรงตามคอนเซปที่ต้องการ 2-มีความสามารถในการพรีเซนท์งานเพราะในแต่ละวันทำงานของนักการตลาดดิจิทัลมีความจำเป็นต้องร่วมงานกับผู้คนมากหน้าหลายตา อาทิ การพบปะพูดคุยกับลูกค้า การประชุมหารือกับทีมงานสร้างสรรค์คอนเทนต์ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกี่ยวของกับการนำเสนอแผนงานหรือผลงานแก่ลูกค้า ดังนั้นการมีทักษะการพรีเซนท์งานที่ดีย่อมทำให้การทำงานของนักการตลาดคนนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จได้ดั่งตั้งใจ  3-รักการเรียนรู้นักการตลาดดิจิทัลที่มีความรู้มากไม่จำกัดเฉพาะความรู้ด้านการตลาดย่อมมีโอกาสสำเร็จได้มากกว่าใคร เพราะยิ่งมีความรู้มาก คุณก็จะยิ่งสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคได้มากขึ้น ดังนั้นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของนักการตลาดดิจิทัลที่ดี คือการเป็นผู้รักการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลานั่นเอง 4-ชอบสิ่งใหม่ๆเป็นธรรมดาที่การตลาดจะขับเคลื่อนไปตามเทรนด์หรือกระแสนิยมซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่แทบตลอดเวลา […]

HR หน้าใหม่ต้องรู้ เรียกสัมภาษณ์อย่างไร ให้ถูกใจคนหา

job interview

พนักงานฝ่ายบุคคลหรือที่เราเรียกติดปากว่า HR สำหรับน้องใหม่ของวงการนี้ อาจต้องเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่าง เช่น การ Recruit คนเข้ามาสัมภาษณ์งาน เพื่อให้ถูกใจคนหางานหรือหัวหน้าแผนกนั้นๆ ที่กำลังต้องการคนอยู่ HR ถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญมากในการตอบโจทย์ครั้งนี้ หากค้นหาคนที่ถูกใจก็จะช่วยให้ตำแหน่งนั้นได้คนเร็ว อีกทั้งยังทำให้บริษัทได้ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าหากหาคนมาไม่ถูกใจคนหา ตำแหน่งก็จะว่างอยู่แบบนั้น ทำให้การทำงานของบริษัทหยุดชะงักได้ ดังนั้นสำหรับน้องๆ HR หน้าใหม่ ควรเรียนรู้ทริคเบสิคเอาไว้สักนิด ในการเรียกสัมภาษณ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายมากที่สุด  1.เรียกคนที่คุณสมบัติตรง พูดแค่นี้หลายคนก็อาจคิดว่าเป็นเรื่องที่คงรู้กันอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องบอกเลยสักนิด แต่ในความเป็นจริง เชื่อว่าประสบการณ์ที่ HR เรียกคนที่มีคุณสมบัติไม่ตรงไปสัมภาษณ์ยังเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง พาลให้หัวเสียทั้งคนที่กำลังมองหาพนักงาน และคนที่ถูกเรียกมาสัมภาษณ์ สุดท้ายหลังจบการสัมภาษณ์ได้แต่ทิ้งคำตอบเอาไว้ให้คนถูกเรียกงงว่า “คุณสมบัติยังไม่ตรง” ทั้งๆ ที่ก่อนเรียก HR ควรรู้อยู่แล้วว่าคนที่จะเรียกสัมภาษณ์นั้นมีคุณสมบัติยังไง ตรงกับที่ทางบริษัทกำลังมองหาหรือไม่ การที่คนสัมภาษณ์ให้เหตุผลมาแบบนี้ ก็อาจเป็นมีส่วนผิดมาจาก HR ที่ Recruit คนเข้ามาทั้งที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามความต้องการก็ได้  2.เรียกคนที่คาดหวังเงินเดือนไม่ห่างไกลเกณฑ์ของบริษัท เชื่อว่าหลายคนที่เสียเวลาไปกับขั้นตอนการสัมภษณ์งานเพราะเรื่องนี้ จากใบสมัครที่ผู้หางานระบุเอาไว้อย่างดิบดี ว่าคาดหวังเงินเดือนเท่าไร ส่วน HR ก็ต้องรู้อยู่แล้วเช่นกันว่าบริษัทจ่ายได้เท่าไร แต่หลายๆ ครั้งก็ยังไม่วายเสี่ยงเรียกคนที่คาดหวังเงินเดือนสูงเกินกว่าที่บริษัทจะจ่ายได้ อันนั้นอาจเป็นความบกพร่องเล็กๆ ของ […]

ทำไมการฝึกอบรมพนักงานจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจ

ภาพบรรยาการการฝึกอบรมพนักงาน

การฝึกอบรมเป็นกระบวนการของการพัฒนาทักษะ ความสามารถ และความรู้ของพนักงานในการทำงานโดยเฉพาะ กระบวนการฝึกอบรมหล่อหลอมความคิดของพนักงานและนำไปสู่การปฏิบัติงานที่มีคุณภาพของพนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด เรามาดูกันว่าการฝึกอบรมพนักงานมีความสำคัญต่อองค์กรอย่างไร และองค์กรจะได้รับอะไรตอบแทน ความสำคัญของการฝึกอบรม การฝึกอบรมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาองค์กรและช่วยให้ประสบความสำเร็จ ส่งผลดีต่อทั้งนายจ้างและลูกจ้างขององค์กร ช่วยให้ได้พนักงานที่มีประสิทธิภาพและ พนักงานสามารถสร้างผลผลิตที่ดีขึ้นได้หากพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี การฝึกอบรมมีพื้นฐานสี่ประการ : 1. การฝึกอบรมพนักงานใหม่ที่เข้าร่วมองค์กร การฝึกอบรมนี้ทำให้พวกเขาคุ้นเคยกับภารกิจขององค์กร วิสัยทัศน์ กฎระเบียบ และข้อบังคับและสภาพการทำงาน 2. การฝึกอบรมพนักงานที่มีอยู่แล้ว เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มพูนความรู้ 3. การฝึกอบรมเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา ตัวอย่างเช่น การใช้งานอุปกรณ์ใหม่, การเปลี่ยนแปลงเทคนิคการผลิต, การใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ พนักงานได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ใหม่และวิธีการทำงานของมัน 4. การฝึกอบรมเมื่อเลื่อนตำแหน่ง มีการฝึกอบรมเพื่อให้พนักงานพร้อมที่จะแบ่งปันความรับผิดชอบของงานในระดับที่สูงขึ้น ประโยชน์ของการฝึกอบรมสามารถสรุปได้ดังนี้ : 1. ปรับปรุงขวัญกำลังใจของพนักงาน – การฝึกอบรมช่วยให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการทำงานและเกิดความพึงพอใจในงาน เมื่อพนักงานมีความพึงพอใจมากขึ้นและยิ่งมีกำลังใจในการทำงานของพวกเขามากขึ้น พวกเขาจะอยากมีส่วนร่วมในความสำเร็จขององค์กรและสิ่งนี้จะช่วยลดปัญหาการลางานหรือการลาออกจากงาน บริษัทก็จะไม่ต้องคอยมองหาพนักงานมาแทนอยู่ตลอดเวลา 2. การกำกับดูแลที่น้อยกว่า – พนักงานที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี จะคุ้นเคยกับงานเป็นอย่างดี และต้องการการดูแลหรือคุมงานที่น้อยกว่า ดังนั้นจึงช่วยลดเวลาที่ต้องเสียไปกับการกำกับดูแลจากหัวหน้างานอย่างใกล้ชิด 3. อุบัติเหตุน้อยลง – ข้อผิดพลาดมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น […]

5 เคล็ดลับ ลดระดับความเครียดขณะทำงานจากที่บ้าน

รูปผู้หญิงกำลังผ่อนคลายความเครียด ระหว่างทำงานที่บ้าน

เนื่องจากการระบาดของโคโรน่าไวรัส หรือ COVID-19 ทำให้หลาย ๆ คนต้อง Work from home บางอาชีพหรือบางสายงาน อาจจะคุ้นเคยดีกับการทำงานที่บ้าน เพราะได้รับการฝึกอบรมในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสื่อสารแล้วทำงาน แต่ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ไม่คุ้นเคยกับการทำงานที่บ้านแล้วนั้น คุณอาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รับมือได้ยากและอาจเกิดความเครียดได้ง่าย ๆ เรามี 5 เคล็ดลับดี ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ ที่จะช่วยให้คุณจัดการกับความเครียดที่อาจเกิดจากการทำงานที่บ้าน 1.กำหนดเวลาการทำงานของคุณ ในช่วงที่คุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากคุณทำงานในออฟฟิศ คุณมักจะต้องทำงานตามกำหนดเวลาเช่น 9.00 น. ถึง 17.00 น. ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชอบตื่นเช้าหรือไม่ก็ตาม คุณจะต้องลุกขึ้นและออกเดินทางไปทำงานตอนเช้าทุกวัน ดังนั้น สิ่งนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่หลายคนเลือกเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นและเลือกการทำงานจากที่บ้าน สิ่งที่น่าแปลกใจคือหลายคนยังคงทำงานตามกำหนดเวลา 8 ชั่วโมง แม้ว่าพวกเขาจะทำงานจากที่บ้านก็ตามสำหรับหลาย ๆ คน การกำหนดเวลาที่แน่นอน ช่วยแยกเรื่องส่วนตัวออกจากเวลางาน และยังสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการทำงานไม่หยุด อย่างไรก็ตามการยึดตารางงานที่เข้มงวด อาจทำให้เครียดมากและในความเป็นจริง อาจเอาชนะความได้เปรียบจากการทำงานจากที่บ้าน ซึ่งคือความสามารถในการเลือกเวลาที่คุณต้องการทำงานได้ การทำงานจากที่บ้านช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการกำหนดเวลาทำงาน และชีวิตส่วนตัวของคุณ เพื่อให้คุณสามารถสร้างสมดุลของชีวิตการทำงานที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามหากคุณกำลัง จำกัดตัวเองกับตารางเวลาที่กำหนดซึ่งอาจทำให้คุณเครียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรกำหนดเวลาไว้เลย แทนที่จะทำตามกิจวัตรประจำวันเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ให้ค้นหาเวลาที่คุณสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด […]